REVIT ARCHITECTURE is powerfully developed as the update version of Autodesk products. Now it is possible to submit a full drawings project in a day as imagination. REVIT ARCHITECTURE is the no.1 software for architectural drawings in Europe, America. Now, it is your choice to making decision by yourself for making a history!!!

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วิชาการออกแบบและเขียนแบบสถาปัตยกรรม ๓ มิติด้วยโปรแกรมเรวิท

โปรแกรม Autodesk Revit Architecture 2009 เป็นโปรแกรมออกแบบและเขียนแบบงานสถาปัตยกรรมด้วยเทคโนโลยี “การจำลองรายละเอียดข้อมูลอาคาร (Building Information Modeling)” หรือที่นิยมเรียกกันในวงการว่า “บีไอเอ็ม” (BIM) วิธีการนี้จะช่วยทำให้สถาปนิก วิศวกร ผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือที่ผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ สามารถนำข้อมูลรายละเอียดอาคารไปใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ลดการทำงานซ้ำซ้อน ลดการทำงานขัดแย้งกัน เป็นการลดต้นทุนในการทำงานทั้งระบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบร่าง จนถึงขั้นตอนการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และที่สำคัญที่สุดก็คือได้ผลงานที่มีคุณภาพ มีความสมบูรณ์ ครบถ้วน และถูกต้องมากที่สุด

การจำลองรายละเอียดข้อมูลอาคาร (BIM) นั้น เริ่มต้นจากสถาปนิกเป็นผู้สร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรม โดยการจำลองรายละเอียดต่างๆของอาคาร ป้อนไปสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ และการก่อสร้างได้ร่วมกันทำงาน และใช้งานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างฐานข้อมูลใหม่ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ประหยัดเวลาและต้นทุนในการทำงานได้ และมีโอกาสผิดพลาดได้น้อย เนื่องจาก Autodesk Revit Architecture เป็นโปรแกรมหนึ่งในตระกูล Autodesk ที่ทำงานในระบบ BIM ได้อย่างครบวงจร

รายวิชาเลือก ๘๐๓๓๒๘ การออกแบบและเขียนแบบสถาปัตยกรรม ๓ มิติด้วยโปรแกรมเรวิท (3D Architectural Design and Drafting w/ REVIT Program) เป็นการศึกษาเรียนรู้ในระดับพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งจะช่วยทำให้ให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจถึงลักษณะการใช้งานของโปรแกรมขั้นต้นได้อย่างรวดเร็ว ผู้เรียนจะสามารถใช้คำสั่งออกแบบและเขียนแบบงานสถาปัตยกรรมได้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่การสร้างฐานราก(Foundation) เสา(Column) คาน(Beam) ผังพื้น(Plan) การสร้างรูปด้าน(Elevation) รูปตัด ๒ มิติ(2D Section) รูปตัด ๓ มิติ(3D Section/Section Box) แบบขยายสถาปัตยกรรม(Details) บันได(Stair) หลังคา(Roof) ฯลฯ เป็นต้น โดยผู้สอนจะปูพื้นฐานต่างๆให้ก่อน จากนั้นผู้เรียนจะต้องเรียนรู้จากสื่อการเรียนรู้ที่ผู้สอนจัดเตรียมไว้ให้ และที่สำคัญที่สุดคือการฝึกฝนด้วยตัวเองบ่อยๆ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเข้าใจคำสั่ง และเชื่อมโยงการใช้งานต่างๆได้เป็นอย่างดี และจะส่งผลให้ผู้เรียนมีศักยภาพในการศึกษาค้นคว้าในระดับที่สูงขึ้นไปได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

::จำนวนการดูหน้าเว็บรวม::